วิเคราะห์หลังเกมส์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 คริสตัล พาเลซ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดท่าพ่ายคาบ้านแก่ คริสตัล พาเลซ ทั้งที่รูปเกมและโอกาสยิงประตูเหนือกว่าอีกฝ่ายค่อนข้างมาก แต่เมื่อมองลงมาดูถึงประสิทธิภาพของการในการจบสกอร์ต้องยกให้ฝั่ง ปราสาทเรือนแก้ว ที่มีทีเด็ดทีขาดมากกว่า เกมนี้มีประเด็นให้พูดกันหลายเรื่อง เรามาแจกแจงกันทีละเรื่องเลย

1. ผีแดง พลาดท่า พาเลซ ครั้งแรก

เริ่มซีซั่นมาแค่ 3 เกม โซลชา ก็ทำสถิติสุดช็อกเข้าให้แล้ว เนื่องจาก แมนฯยูไนเต็ด พลาดท่าต่อ คริสตัล พาเลซ เป็นครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ลีกเลยก็ว่าได้ ครั้งสุดท้ายที่ ”ดิ อีเกิลส์” ชนะ ผีแดง ในลีกสูงสุดต้องย้อนกลับไปในปี 1991 ซึ่งยังใช้ชื่อ ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ พาเลซ ยิงประตูขึ้นนำที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 1979 แฟนปีศาจแดงคงหวังว่า โซลชา จะไม่เดินตามรอยกุนซืออย่าง หลุยส์ ฟานกัล และโชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นนักทำลายสถิติของผีแดงในทางที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

2. จุดโทษ-ฟรีคิกเอายังไงต่อ

เมื่อการเข้าทำของ แมนฯยูไนเต็ด ไม่สามารถเจาะแนวรับของ พาเลซ ได้มากนัก  พวกเขาจำเป็นต้องหวังพึ่งลูกตั้งเตะให้มากขึ้น แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาถือว่าสอบตกกันหลายเรื่อง ตั้งแต่การยิงฟรีคิก ซึ่งพวกเขามีโอกาสทองหน้าเขตโทษถึงสองสามครั้ง แต่ทั้ง มาร์คัส แรฟชอร์ด และปอล ป็อกบา ซัดออกไปแบบไม่ได้ลุ้น ซึ่ง 2-3 นัดที่ผ่านมา ผีแดง หวังพึ่งอะไรไม่ได้จากการยิงแบบนี้เลย ขณะที่ลูกฟรีคิกระยะไกลและลูกเตะมุมก็ยังไร้ประสิทธิภาพ แม้จะดึงเจ้าเวหาอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เข้ามา แต่หากขาดคนเปิดบอลที่แม่นยำก็คงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ไม่ได้

ส่วนลูกจุดโทษกลายเป็นประเด็นที่น่าจับตามองในเกมนี้ โดยคนยิงจุดโทษเปลี่ยนจาก ปอล ป็อกบา ซึ่งพลาดจากเกมที่แล้วมาเป็น แรชฟอร์ด ที่เป็นมือหนึ่งยิงจุดโทษเหมือนกัน แต่ทว่าลูกยิงของเขาดันไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ทำให้เป็นอีกครั้งที่ ผีแดง พลาดจุดโทษซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้เลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตามหลังเกมนี้ โซลชา ยืนยันว่าจะสนับสนุนทั้งสองคนให้ยิงจุดโทษต่อไป

3. ลินการ์ดยังเหมือนเดิม

แม้เกมที่แล้ว เจสซี่ ลินการ์ด จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ในเมื่อตัวเลือกในม้านั่งสำรองค่อนข้างน้อย นั่นทำให้ โซลชา ยังคงส่งแนวรุกคนนี้ลงสนามต่อไป แน่นอนว่าแฟนผีเห็นรายชื่อเขาก่อนเกมคงต้องภาวนาอย่างหนักให้ฟอร์มกลับมาองค์ลงอีกครั้ง แต่สุดท้ายเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ลินการ์ด ขาดคุณสมบัติของตำแหน่งเบอร์ 10 อย่างชัดเจน เขาทำได้แค่วิ่งไล่บีบเพรสซิ่งคู่แข่งและจ่ายบอลสั้นไปมา แต่ยังสร้างสรรค์เกมรุกได้น้อย แถมเกมนี้ยังมีหลายจังหวะที่จับบอลแรกไม่ดีอีกด้วย

4. สัญญาณที่ดีขึ้นของเจมส์

ในเกมที่ย่ำแย่นี้ยังพอมีเรื่องที่ดีอยู่บ้าง ดาเนี่ยล เจมส์ ปีกดาวรุ่งของทีมสอยตาข่ายประตูที่สองในซีซั่นนี้หลังซัดประตูเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปแบบสุดสวยในช่วง “เฟอร์กี้ ไทม์” ต้องบอกว่าเขาเล่นได้ดีมากขึ้นกว่าเกมกับวูล์ฟแฮมป์ตัน โดยเมื่อคืนเขามีบทบาทในเกมรุกค่อนข้างเยอะ แม้อาจจะมีบางจังหวะที่ดูทื่อไปบ้างเช่น การเลี้ยงบอล และการเปิดบอลจากด้านข้าง แต่เขาใช้ความเร็วหลบคู่แข่งและเรียกฟาวล์บริเวณหน้าเขตโทษหลายครั้ง ดูจะเป็นคนที่ความกระตือรือร้นมากที่สุดในสนาม ความสามารถของเขายังคงพัฒนาไปได้อีกมาก แฟนผีแดงคงหวังว่าจะได้เห็นอะไรมากขึ้นจากเด็กหนุ่มคนนี้

5. สำรองทีเด็ดไม่มี

ถือเป็นปัญหาสำคัญของ ผีแดง ก็ว่าได้ เนื่องจากในวันที่เกมรุกค่อนข้างตื้อ พวกเขาคงต้องหานักเตะที่ลงมาเปลี่ยนเกม แต่เมื่อมองมายังซุ้มม้านั่งสำรองแล้วหาคนที่เป็นทีเด็ดยากเหลือเกิน เมสัน กรีนวู้ด อาจจะแข้งเกมรุกที่ดูดีที่สุดในตัวสำรองแต่เขาเป็นแค่ดาวรุ่งวัย 17 ปีเท่านั้น ยังต้องการประสบการณ์ในเวที พรีเมียร์ลีก อีกค่อนข้างมาก ขณะที่ ฆวน มาต้า และ อันเดรียส เปเรยร่า ยังคงหาความแน่นอนไม่ได้และยังไม่ใช่แข้งที่จะลงมาพลิกเกมให้ดีขึ้น ส่วนแข้งสำรองรายที่เหลือก็เป็นนักเตะที่เล่นเกมรับเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้นักเตะที่ไม่มีชื่ออย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาฟอร์มดีหรือไม่ เห็นได้ชัดว่าขุมกำลังของ ปีศาจแดง ยังขาดนักเตะสำรองที่มีคุณภาพ

Leave a Comment

Scroll to Top