“สิงห์บลูส์” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก เมสัน เมาท์ แต่กลายเป็นว่าครึ่งหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ แก้เกมมาดีก่อน วิลฟรีด เอ็นดิดี้ ที่ทำเสียประตูแรกจะโขกแก้ตัวให้ทีมไล่ตีเสมอ 1-1 แบ่งแต้มกันไป ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านม
1. วันนี้ เชลซีจัดทีมใช้นักเตะชุดเดิมที่ลงเตะกับ ลิเวอร์พลู ขุมกำลังค่อนข้างฟลูทีมและได้ วิลเลียนกับมาเป็นตัวสำรองอยู่ข้างสนาม ส่วน เลสเตอร์ วันนี้ปรับเปลี่ยนหลายตัวค่อนข้างจะเป็นรองเจ้าถิ่นนิดหน่อย
2. เปิดเกมส์มา เป็น เชลซีที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก เมสัน เมาท์ ฉกบอลจาก เอ็นตีตี้กลางสนามหลุดเข้าไปยิงผ่าน ชไมเคิ่ล เข้าไปนาทีที่ 7 ขึ้นนำไปก่อน 1-0 เกมส์ค่อนข้างสลับกันรุก-รับ เล่นกันขาดๆเกินๆทั้งสองทีม เป็น เลสเตอร์ที่ผ่านบอลไปมามีโอกาสแต่ก็จบไม่ได้จนจบเวลาครึ่งแรกไม่ได้มีอะไร
3. เปิดครึ่งหลังมา เป็นเชลซีที่เล่นได้สบายกว่าจากประตูขึ้นนำในครึ่งแรก สู้กันในแดนกลาง เลสเตอร์พอจะต่อบอลกันได้มากขึ้นและได้ประตูตีเสมอจาก เอ็นติตี้คนเดิมที่พลาดในครึ่งแรกจากการเปิดมุมของ เตเลอล็อง และโหม่งเข้าไป พดีประตูตีเสมอจี้ เลสเตอร์ก็บุกหนักและเกือบได้ประตูขึ้นจาก เมดิสัน ได้บอลจากจังหวะขลุคขลิคหน้าปากประตูแต่เจ้าตัวดันยิงข้ามคานอย่างน่าเสียดาย และยังมีอีกหลายจังหวะที่เกือบทำประตูได้แต่พลาดเองไปหมด จนเชลซีเริ่มไม่ไหวเปลี่ยนตัว วิลเลียน กับ โควาวิช ลงมา แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกมส์กันไป 1-1 เชลซีเพิ่งได้แต้มแรกในพรีเมียร์ลีค
4. จุดเปลียนของเกมส์ คือจังหวะที่ เมดิสัน ได้ยิงแต่ข้ามคาน เพราะถ้ายิงเข้าไปนั้นจะทำให้ได้เปรียบทันที แต่พอทำไม่ได้ ผลเสมอ ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีสำหรับทีมเยือน
5. แมน ออฟ เดอะ แมตทช์ เป็นของ เจมส์ เมดดิสัน อย่างแน่นอนด้วยสถิติ
90 mins
1 Assist
67 Touches
24 Passes
3 Key Passes
1 Big Chance Created
1 Big Chance Missed
2 Dribbles
4 Duels Won
1 Tackle Won