วิเคราะห์หลังเกมส์คู่ แมนยู – ลิเวอร์พลู

 ลัลลาน่า กลายเป็นซูเปอร์ซับหลังยิงประตูแรกในรอบ 29 เดือน ช่วยให้ ลิเวอร์พูล บุกมาแบ่งแต้มในโอล์ดแทร็ฟฟอร์ดแม้จะโดนหยุดสถิติชนะรวดไว้แค่ 8 นัดซีซั่นนี้ และรวม 17 นัดนับแต่ซีซั่นก่อน ทว่า “หงส์แดง” ยังยืดสถิติไร้พ่ายในลีกซีซั่นนี้ต่อไป หลังลงแข่ง 9 นัด รั้งจ่าฝูงด้วยการมี 25 คะแนน นำอันดับสอง “เรือใบสีฟ้า” 6 แต้ม ขณะที่ลูกทีมของ โซลชา ชวดโอกาสคว้าชัยหนแรกในรอบ4เกมมีเพิ่มเป็น 10 คะแนน อยู่อันดับ 13

 

1.   ศึกแดงเดือดหนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มี ดาบิด เด เคอา ยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายได้เหมือนเดิม หลังมีอาการเจ็บต้นขามาจากการรับใช้ทีมชาติสเปน แต่ไม่มี ปอล ป็อกบา ที่ข้อเท้ายังเดี้ยงตามคาด ส่วน อารอน วาน-บิสซาก้า ผ่านความฟิตพร้อมลงเล่นทางกราบขวา   ดังนั้นจึงเลือกใช้ระบบ 5-2-2-1 วางแนวรับมาแน่นปึ้ก 3 เซ็นเตอร์แบ็กยืนปักหลัก ส่วนทีมเยือนลิเวอร์พูลได้อลิสซอน เบ็คเกอร์กลับมา ทำให้เกมรับดูจะอุ่นใจขึ้น แต่การเสียโม ซาลาห์นั้นดูจะเป็นเรื่องเสียหายกว่า เพราะเห็นชัดเจนว่าพลังแนวรุกนั้นหายไปเลย สามประสาน โอริกี้-ฟีร์มีโน่-มาเน่ ดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่  จัดทัพ 4-3-3 ตามเดิมที่คุ้นเคย

2. เริ่มเกมส์ยังคงเกรงๆ และไม่กล้าผลีผลามเท่าไหร่ นาทีที่ 36 แมนฯ ยูไนเต็ด สวนเร็ว แดเนียล เจมส์ เปิดให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เข้าฮอสตุงตาข่าย ผู้เล่น ลิเวอร์พูล รุมประท้วง มาร์ติน แอตกินสัน ผู้ตัดสิน ว่าโอริกี้ โดนลินเดอเลิฟเตะจริงไหม คำตอบคือใช่ และควรเป็นฟาวล์ตรงจุดนี้ แต่ถามว่า ควรใช้ VAR เพื่อยกเลิกประตูเลยหรือไม่  โอริกี้ น่าจะโดน วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ทำฟาวล์ไปก่อนแล้ว ก่อนจะมีการเช็ก วีเออาร์ สุดท้ายยังคงเป่าให้เป็นประตู เจ้าบ้านนำ 1-0  จนกระทั่งหมดครึ่งแรก

3. เปิดครึ่งหลังมา  แมนยู ปรับแผนผ่อนเกมส์ลงไป เลิกเพรสซิ่งสูง เน้นคุมโซน จนทำให้ในช่วงท้าย  ลิเวอร์พลู สั่งแบ็คสองข้างดันขึ้นมาเติมเกมส์ช่วย และนาทีที่ 83 แฟนหงส์แดงได้เฮลั่น เมื่อทีมเยือนมาไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลจากด้านซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลมาหน้าปากประตูบอลเลย มาร์กอส โรโฮ ถึง อดัม ลัลลาน่า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมายิงด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ

4. ดราม่ากรณี  VAR ที่เกิดขึ้นกับประตูของซาดิโอ มาเน่ ก็แฟร์แล้วเช่นเดียวกัน ไม่สำคัญว่าตั้งใจหรือไม่ แต่เมื่อการโดนมือมีผลต่อการยิงประตูกรรมการก็ต้องปฏิเสธอยู่แล้ว เหมือนกับเกมที่แมนฯซิตี้ เสมอสเปอร์ส เกมนั้น แมนฯซิตี้ได้ประตูชัยช่วงทดเจ็บ แต่พอดู VAR บอลไปโดนมือจอห์น สโตนส์ก่อน ซึ่งแม้จะไม่ตั้งใจแต่ลูกนั้นก็ไม่ได้ประตู

5. สรุปผล แบ่งแต้มกันไปคนละแต้ม ถือเป็นผลงานที่ดีสำหรับเจ้าบ้านที่ขาดตัวหลักไปเยอะ เพราะในฟอร์มล่าสุด ไม่โดนถล่มก็ดีแล้ว แต่ส่วนทีมเยือน อาจจะน่าเสียดายหน่อย ที่ไม่ได้ สามแต้มกลับบ้าน แต่การมาเล่นที่โอล์ดแทร็ฟฟอร์ด ถือว่าไม่เคยเป็นงานง่ายอยู่แล้ว

Leave a Comment

Scroll to Top